ประวัติศาสตร์ชนชาติม้งที่ซ้นแร้นมากกว่า 5,000 ปี (ตอน 10)

ประวัติศาสตร์ชนชาติม้งที่ซ้นแร้นมากกว่า 5,000 ปี (ตอน 10) เปิดตำนานประวัติศาสตร์ชนชาติม้งที่ซ่อนเร้นมากว่า 5,000 ปี (ตอนที่ 10) สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เป็นสมัยที่ยังไม่มีการนับ วัน เดือน ปี วันเวลา…..พื้นที่ยังไม่มีขอบเขต โลกนี้กว้างใหญ่ไพศาล ผืนแผ่นดินนี้มีอาณาบริเวณไม่มีที่สิ้นสุด ชนชาติม้งได้ถือกำเนิดอยู่บนผืนแผ่นดินที่ปัจจุบันนี้ คือประเทศจีน ซึ่งกลายมาเป็นประวัติศาสตร์ ที่กล่าวถึงในขณะนี้ ชนชาติม้ง ที่เคยเจริญรุ่งเรือง มีหน่วยงานราชการคอยดูแลประชาชน มีนักปราชญ์ มีบัณฑิต มีการพัฒนาความอยู่ดีมีสุข ตรากฎหมาย ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อต่าง ๆ ขึ้นมา ชาวม้งอยู่อย่างสงบสุข และมีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับชนชาติอื่น มีพระมหากษัตริย์ มีเจ้าหญิง เจ้าชายม้ง และมีขอทาน รุ่นแล้วรุ่นเล่า จากประวัติศาสตร์ กลายเป็นตำนาน ความเจริญรุ่งเรืองของม้งค่อย ๆ เลือนหายไปจากชีวิตจริง และท้ายสุดเหลือเพียงนิทานปรัมปรา ที่เล่าต่อ ๆ กันมาเรื่องแล้วเรื่องเล่า ถ้าขณะนี้ นำเรื่องของกษัตริย์ม้งมาพูดคุย ก็เหมือนนำนิทานมาเล่าสู่กันฟังเท่านั้นเอง เป็นเรื่องที่ไกลเกินฝัน ยากแก่การเข้าใจของชาวม้งเป็นอย่างมาก บางคนอาจแสลงหูและเป็นการละอายแก่ใจเป็นอย่างยิ่งที่จะเอ่ยถึงเรื่องดังกล่าว ยื่อ เพ่ง ซ่ง ในนามคณะผู้ค้นคว้าจากม้งเอบีซี มีความยินดีที่จะนำภาค 2 เปิดตำนานประวัติศาสตร์ ชนชาติม้งที่ซ่อนเร้นมากว่า 5,000 ปี ตอน ตามรอยเส้นทางเลือด ซึ่งเป็นเส้นทางที่คณะผู้ค้นคว้าจะนำนิทานมาเป็นตำนาน และนำตำนานกลายมาเป็นประวัติศาสตร์ เพื่อศึกษาค้นคว้าต่อไป ซึ่งจะนำมาเป็นสิ่งเตือนใจ ความสุขใจ และเป็นที่หวังสำหรับลูกหลานชาวม้ง ให้สำนึกในความเป็นม้ง แต่สามารถอยู่ร่วมกับชนชาติอื่นได้อย่างอิสระ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะให้พวกเขาฝันที่จะอยากเป็นหรือกลายเป็นชนชาตินั้น ๆ ไปโดยปริยาย หากได้ติดตามเรื่องราวจาก ภาค 1 มาคงจะรู้ว่าชนชาติม้ง เป็นชนชาติที่มีความเจริญรุ่งเรือง ไม่ด้อยไปกว่าชาติอื่น ๆ เลย และชนชาติม้ง เป็นชนชาติโบราณที่มีประวัติสลับซับซ้อนมาเป็นระยะเวลายาวนาน 5,000 – 6,000 ปี มาแล้ว
ทุกวันนี้หากเรายิ่งค้นคว้าไปให้ลึกเพียงใด เราจะยิ่งพบเจอร่องรอย และสิ่งดี ๆ ของม้งอยู่ในเส้นทางค้นคว้านั้น เราต้องถอยหลังย้อนกลับไปค้นคว้าตามเส้นทางโบราณ ของบรรพบุรุษม้ง ซึ่งไม่ได้ง่ายดาย แต่เป็นเส้นทางที่ปูด้วยเลือด เนื้อ และชีวิต ของบรรพบุรุษม้ง เส้นทางนี้ไม่สะดวกแก่ร่างกาย และจิตใจแต่อย่างใดเลย แต่เรามาร่วมกันจับมือเดินตามรอยเส้นทางเลือดอันยาวนานสายนี้ด้วยกัน ประวัติที่ค้นพบ มีหลักฐานที่แน่นอน ชัดเจน ชวนให้เศร้าเคล้าน้ำตาตลอดเส้นทางนี้ ภาคนี้จะย้อนกลับไปเพียง 200 – 500 ปีที่ผ่านมาหมาด ๆ นี่เอง เริ่มปี ค.ศ. 1400 เรื่อยมาจนถึง ปี ค.ศ. 1800 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จีนได้กระทำการล้างเผ่าพันธุ์ม้งด้วยการฆ่าฟันชาวม้ง ให้สูญพันธุ์ไปจากแผ่นดินจีน ซึ่งชาวม้งพยายามทนทุกข์ ทรมาน ต่าง ๆ นานา เพื่อให้ชนชาติม้งยังอยู่และไม่สูญพันธุ์ไป ช่วงเวลาดักล่าวเป็นช่วงเวลาที่ทุกข์แสนสาหัสของชาวม้ง ที่พี่น้องม้งล้มตาย ต้องหลั่งเลือดเนื้อปานสายน้ำไหลไปทั่วทุกหัวระแหง เริ่มต้นเส้นทางด้วยการพาไปรู้จักพี่น้องม้งท่านหนึ่งชื่อ อาจารย์ วื่อ หลง เซ่ง (Wu Rong-zhen) เป็นชาวม้งที่อาศัยอยู่จี๋โฉ่ เมืองฮูหนาน อาจารย์ วื่อ หลง เซ่ง สอนหนังสือชั้นมัธยมปลายอยู่ที่โรงเรียนใหญ่แห่งหนึ่งในจี๋โฉ่ เมืองฮูหนาน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่แห่งหนึ่งทางตะวันตกของฮูหนาน เป็นผู้ที่ได้ศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ของชาวม้ง มาเป็นอย่างดี ในปี ค.ศ. 1997 อาจารย์ วื่อ หลง เซ่ง ได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อ “ประวัติศาสตร์ชนชาติม้ง” เป็นหนังสือที่กล่าวถึง ประวัติศาสตร์ชนชาติม้งในจีน ไว้อย่างละเอียดดีทีเดียว อาจารย์ วื่อ หลง เซ่ง กล่าวว่า ในปี ค.ศ. 1400 เป็นต้นมา (ประมาณ 600 ปีมาแล้ว) คือ ช่วงเวลาที่จีนพยายามรุกล้ำดินแดนของม้งทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ บังคับขู่เข็นให้ม้งเสียภาษีอย่างไม่เป็นธรรมให้แก่ทางการจีน รวมถึงมีการปล้นสะดมโจรกรรมต่อชาวม้ง ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1644 – 1911 เป็นช่วงเวลาที่แมนจูขึ้นครองประเทศจีน เป็นเวลา 267 ปี ขณะที่จีนและแมนจู ร่วมมือกันอย่างแข็งขันเพื่อทำร้ายชาวม้งด้วยการแย่งชิงที่ทำกินชาวม้งอย่างซึ่ง ๆ หน้า ทำร้ายและฆ่าฟันประชาชนม้งที่ไม่มีทางสู้ตายเป็นใบไม้ร่วง โดยทางการจีนใช้นโยบายที่พูดถึงเมื่อไหร่ ก็ยังเหมือนมีดที่กรีดใจชาวม้งให้เป็นแผลลึกอยู่ตลอดเวลาไม่มีวันจางหาย นั่นก็คือ เชือดเนื้อเถือหนัง , กวาดต้อนไปเป็นทาส , ปล้นสะดมโจรกรรม และกวาดล้างให้สิ้นซาก ช่วงเวลาดังกล่าว ชาวม้งได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัสถึงกระดูกดำเลยทีเดียว แม้ยามกินยังสะอื้น ยามนอนก็สะดุ้งผวาตื่น กินไม่เคยอิ่ม นอนไม่เคยหลับสนิทสักคราเดียว ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้ที่ทนเห็นสภาพนี้ไม่ไหวหลายคนรวมตัวกัน และลุกขึ้นมาเป็นผู้นำม้ง สู้รบปรบมือกับทหารจีนจนกระทั่งปี ค.ศ. 1800

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น