ประวัติศาสตร์ม้ง 5,000 ปี

ประวัติศาสตร์ม้ง 5,000 ปี (เด็กม้งน่ารัก) เปิดตำนานประวัติศาสตร์ชนชาติม้งที่ซ่อนเร้นมากว่า 5,000 ปี
หากคุณเป็นผู้หนึ่ง ที่เป็นชาวม้งด้วยแล้ว อย่าพลาดอ่านเรื่องราวที่ปรากฏเบื้องหน้าของคุณขณะนี้……….ก่อนที่คุณจะพบคำว่าเสียใจ เพราะคุณจะไม่รู้ประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับตัวเองเลยทีเดียวเชียว … เอาล่ะ .. นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ขอเปิดตำนานประวัติศาสตร์ชนชาติม้ง ที่ซ่อนเร้นมากว่า 5,000 ปี ให้ทราบกัน ผู้เขียนไม่ได้ไปค้นคว้าเส้นทางตำนานของบรรพบุรุษชนชาติม้งเอง แต่แปลจากตำนานประวัติศาสตร์ ชนชาติม้งที่ซ่อนเร้นมากว่า 5,000 ปี ของ อาจารย์ยื่อเพ่ง ซ่ง (Ywj Pheej Xyooj) และคณะจากสหรัฐอเมริกา ที่ได้ดั้นด้นค้นหามานาน จนได้หลักฐานจำนวนมากมาย และได้จัดทำเป็นสารคดีเผยแพร่ให้ผู้สนใจทราบดังนี้
หลายครา…..ที่ชาวม้งมักถามตัวเองว่า ฉันเป็นใคร… และตอบตนเองว่า ฉันคือม้ง… และ ม้งคือใคร… แล้วม้งมีประวัติความเป็นไปเป็นมาอย่างชนชาติอื่นหรือไม่ ? … แล้วหลักฐานทางประวัติศาสตร์อื่น ๆ ที่แสดงว่าเป็นชนชาติม้งมีหรือไม่อยู่ในโลกใบนี้ วันนี้เริ่มต้นค้นหาตามสถานที่ ที่บรรพบุรุษม้งเคยอาศัยมาก่อน รวมทั้งเส้นทางอพยพของชาวม้ง นั่นคือ ประเทศจีนในปัจจุบัน…………อันดับแรกเริ่มต้นที่ชุมชนชาวม้งโบราณ ที่คนม้งเคยอาศัยอยู่มาก่อน คือ ชุมชนจั๊วะลู่ (Tsuab Luj) อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเป้เจ๊ง (เมืองหนึ่งในประเทศจีน) ตามตำนาน และประวัติศาสตร์จีนกล่าวไว้ประมาณ 5,000 ปีมาแล้ว
ม้ง คือ ชนชาติที่เก่าแก่และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานในแผ่นดินนี้ ผืนดินตรงนี้ได้สับเปลี่ยนเจ้าของไปมาหลายครั้งหลายครา จนปัจจุบัน ดินแดนแห่งนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนไปแล้ว มีอาจารย์หลายท่านเคยค้นคว้าและพบว่า ม้ง เป็นชนชาติที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก่อนชนชาติจีน แต่ต่อมา ชาวม้งถูกชาวจีนรุกรานทำลายล้างจนม้งกลายเป็นชนชาติที่ล้าหลัง และยากจนที่สุด แต่สิ่งหนึ่งที่เหลืออยู่คือ ยังไม่สูญพันธุ์จากโลกนี้เท่านั้น แผนที่ประเทศจีนปัจจุบันเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชีย แต่มีประชากรมากที่สุด และในบรรดาประชากรเหล่านี้เป็นชนเผ่าต่าง ๆ อีก 55 ชนเผ่ารวมอยู่ด้วย ในปี ค.ศ. 1990 ประเทศจีนมีประชากร 1 ใน 6 ของประชากรโลก เป็นประชาชนจีน ร้อยละ 92 อีก ร้อยละ 8 เป็นประชากรชนเผ่าจาก 55 ชนเผ่า หรือประมาณ 108 ล้านคน
ปัจจุบันแผนที่ประเทศจีนมีขอบเขตของประเทศที่ชัดเจน แต่หากย้อนไปเมื่อหลายพันปีก่อน เราจะเห็นว่าผืนแผ่นดินจีนแห่งนี้ เป็นแผ่นดินของหลายประเทศรวมกันมาก่อน ประมาณ 5,000 ปีมาแล้ว บรรพบุรุษชาวม้งอยู่เมืองจั๊วะลู่ อยู่ห่างจากเมืองเป้เจ๊ง 75 ไมล์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ผู้นำม้ง หรือเจ้าเมืองในเมืองจั๊วะลู่ คือ จือโหย่ ( CHI YOU ) Txwv Yaum หรือ Txwv Yawg ประชาชนของจือโหย่ จะสวมเขาควายคู่หนึ่งบนศรีษะเป็นสัญลักษณ์ เพราะควายในขณะนั้น เป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของพวกเขาเป็นอย่างมาก ส่วนตอนเหนือ และทางตะวันตกของเมืองจั๊วะลู่ เป็นเมืองของชาวจีนถึง 2 เมือง มีผู้นำ คือ หวงตี้ และ แหยงตี้
อาจารย์ลื่นฉางหัว เป็นผู้หนึ่งที่ศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ม้งเช่นกัน กล่าวว่า เมืองของหวงตี้ แหยงตี้ และ จือโหย่อยู่ในลักษณะรูป 3 เหลี่ยม โดยเมืองของจือโหย่ อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างเมืองของหวงตี้อยู่ทางเหนือ กับแหยงตี้อยู่ทางใต้ เมืองทั้ง 3 อยู่ใกล้เคียงกัน โดยห่างกันปรัมาณ 2 ไมล์ ระหว่างนั้น หวงตี้ แหยงตี้ และ จือโหย่ ได้เปิดสงครามกันหลายครั้ง เหตุเพราะแย่งชิงดินแดน และที่ทำกิน รบรากันหลายสิบปี จั๊วะลู่ (Tsuab Luj) มีเขาล้อมรอบ ส่วนบนยอดเขามีที่ราบขนาดใหญ่ จือโหย่ใช้เป็นสนามซ้อมรบของนักรบ ส่วนด้านล่างเป็นร่องน้ำธรรมชาติ ที่ลึกและชัน ล้อมรอบบริเวณเขาจากทางเหนือมาทางตะวันตก ส่วนด้านใต้เป็นเมืองจั๊วะลู่ เป็นที่อยู่อาศัยของประชาชน
ตามตำนานกล่าวไว้ว่า หวงตี้ ไม่เคยรบชนะจือโหย่ เลย แหยงตี้ก็เช่นกัน เหตุที่จือโหย่มีความสามารถเอาชนะทั้งสองได้ตลอด เพราะช่วงเวลานั้น ทั้งสองรู้เพียงการนำไฟ และก้อนหินมาเป็นอาวุธในการสู้รบเท่านั้น ต่างกับจือโหย่ ที่สามารถนำเหล็กมาทำเป็นอาวุธช่วยในการสู้รบแล้ว . เรื่องราวกำลังชวนติดตาม แต่ไว้ตอนหน้าไปตามหาร่องรอยการสู้รบ แบบน้ำเดือดเลือดพล่านกันต่อของนักรบชนชาติม้ง กับ ยื่อเพ่งซ่ง นักค้นคว้าจากอเมริกา และแปลโดย..โดมดอย ที่นอกจากจือโหย่ แล้ว ยังมีวีรบุรุษ วีรสตรี อีกมากมาย เช่น วีรบุรุษวื่อป้าเยีย ( Vwj Paj Yias) วีรบุรุษสือเหลียวติ้ง(Swv Lim Teej) วีรบุรุษสือซ้างเป่า (Tswv Xaab Pov) วีรบุรุษวื่อเทียนปั้น (Vwj Theeb Paaj) รวมถึงวีรสตรี ซ่งมอหมิ (Xyooj Mog Mim) ผู้เป็นบรรพบุรุษชาวม้ง ดวงวิญญาณของพวกท่านเหล่านั้น กำลังรอคอยวันที่ลูกหลานชาวม้งทั่วโลก ไปค้นคว้า หาความจริงมาให้ชาวโลกได้รับรู้ ถึงความยิ่งใหญ่ของพวกท่านเมื่อกว่า 5,000 ปีมาแล้ว

10 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณที่ลงให้อ่านครับ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณที่ลงให้อ่านครับ

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณที่ลงประวัติความรู้ให้อ่าน

    ตอบลบ
  4. ประทับใจมากๆ...ขอบคุณ

    ตอบลบ
  5. ประทับใจมากๆ...ขอบคุณ

    ตอบลบ
  6. เรื่องนี้พี่แปลจากผลงานของอาจารย์ Ywj pheej xyooj หากใครจะลอกไปใช้กรุณาแจ้งชื่อเจ้าของผลงาน คนแปล ว่าเป็นใครด้วยนะคะ ให้เกียรติแก่เจ้าของผลงานจะดีค่ะ / พี่โดมดอย ค่ะ

    ตอบลบ
  7. ขอสอบถามนิดนึง ถ้าเป็นตะวันตกของจีน แสดงว่าม้งต้องเลี้ยงอูฐเป็นและมีศัพท์คำว่าอูฐ แต่ที่ผมสงสัยคือ ทำไมเรามีศัพท์คำว่า ทะเล !!! ซึ่งทะเลเนี่ยเป็นภูมิภาคตะวันออก ประการความสงสัยที่สอง คือ ม้งชอบภูเขาที่เป็นแมกไม้ ใช้ชีวิต กับต้นไม้ แต่มองโกล เป็นที่ราบเตียนมากกว่า ลักษณะการใช้ชีวิต ลักษณะการปลูกที่อยู่อาศัยต่างกับม้ง อันนี้ผมสงสัยว่าม้งเราจะไม่ใช่มองโกลนะครับ ยิ่งภูมิภาค ตะวันตกฝั่งเหนือ คิดว่าเป็นไม่ได้ เพราะม้งไม่รู้จักทะเลทราย ไม่รู้จักเส้นทางสายไหม ม้งรู้แต่ ภูเขา ปลูกข้าว ปลูกข้าวโพด การแต่งตัวด้วยผ้าหนาๆ ลักษณะคล้ายกับชนเผ่าต่างๆของจีนที่อยู่ทางตอนใต้ ด้วยความสงสัยส่วนตัวนะครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้าพูดถึงว่า ทำไมม้งชอบอยู่บนภูเขา ต้องย้อนกลับไปนานนับพันปี ม้งชนชาติที่ต้องเสียแผนดินให้กับจีนจนต้องอพยพหนีเอาชีวิตรอดนับพันปี และเวลาหนีก็หลบหนีตามป่าภูเขาเพื่อจะได้หลบสายตาจากศตรู จนต้องปรับตัวให้เอาชีวิตรอดให้ได้ในสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ จนถุกเรียกว่าคนป่า คนเขา สิ่งที่ติดตัวมาตลอดก็คือ เมล็ดข้าว และฝิ่น เพื่อเป็นอาหาร และยารักษาโรค และทุกเรื่องราวจะถูกเล่าผ่านนิทานรุ่นสู่รุ่น ที่แท้จริงม้งกับคนทั่วโลกก็มาจากที่เดียวกัน

      ลบ
  8. มีนะเพื่อน ดอยอดอยาก(ตร๊ง ตัว ไช๊)

    ตอบลบ